TOSKHAN แนะนำ Data Collection บนออนไลน์ที่ธุรกิจนำข้อมูลไปใช้ได้จริงและเพิ่มประสิทธิภาพได้
Date : 13/06/2024
คุณเคยคิดที่จะรวบรวมข้อมูลเพื่อปรับปรุงธุรกิจของคุณหรือไม่? หากคุณคิดที่จะรวบรวมข้อมูลแต่ยังไม่รู้ความแตกต่างของเครื่องมือที่ใช้รวบรวมข้อมูล เท่ากับคุณต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ จะดีกว่าไหมถ้าคุณเข้าใจเครื่องมือเหล่านั้นก่อนที่จะนำไปใช้จริง
TOSKHAN เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลจาก ARDI ซึ่งเป็นผู้ให้บริการครอบคลุมความต้องการของธุรกิจ และช่วยเหลือในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องมีความเกี่ยวข้องกับข้อมูล โดย TOSKHAN เป็นแพลตฟอร์มที่ติดตามและรวบรวมสิ่งที่ลูกค้าพูดเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ (Social Listening) ดังนั้นเราจึงจะมาแนะนำเทคนิคในการรวบรวมข้อมูลออนไลน์ ที่ธุรกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้งานได้จริงผ่านบทความนี้
คุณเคยได้ยินหรือไม่ว่าโลกดิจิทัล ‘ข้อมูล’ อยู่รอบตัวเรา มันเกิดขึ้นตั้งแต่อินเทอร์เน็ตได้รับความนิยม และปริมาณข้อมูลที่มีอยู่ก็เพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นผ่านข้อมูลที่เป็นโพสต์บนโซเชียลมีเดีย, การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านการทำการตลาดออนไลน์ หรือจากเว็บบล็อกที่ลูกค้าสร้างขึ้นทางออนไลน์ ความเป็นไปได้ในการรวบรวมข้อมูลออนไลน์นั้นมีมากมาย และก็มีหลายเทคนิคในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่จะทำให้ข้อมูลบนออนไลน์มาอยู่ในมือคุณ
นี่คือ 4 เทคนิคในการรวบรวมข้อมูลออนไลน์ ที่ TOSKHAN แนะนำให้ธุรกิจรู้จักด้วยวิธีเหล่านี้ทำให้ธุรกิจมีข้อมูลที่ต้องการนำไปใช้งานได้จริง
1. แบบสำรวจและแบบสอบถามออนไลน์ (Online survey and questionnaire)
การทำแบบสำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเชิงคุณภาพหรือเชิงปริมาณ เป็นวิธีที่รู้จักกันดีที่สุดในการรวบรวมข้อมูล โดยส่วนใหญ่จะทำการสำรวจเพื่อให้ได้คำตอบที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณกำลังมองหา ไม่ว่าจะเป็นผลตอบรับหลังการซื้อหรือการศึกษาตลาดเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นต้น
การทำแบบสำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเชิงคุณภาพหรือเชิงปริมาณ เป็นวิธีที่รู้จักกันดีที่สุดในการรวบรวมข้อมูล โดยส่วนใหญ่จะทำการสำรวจเพื่อให้ได้คำตอบที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณกำลังมองหา ไม่ว่าจะเป็นผลตอบรับหลังการซื้อหรือการศึกษาตลาดเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นต้น
2. การวิเคราะห์การตลาด (Marketing Analytics)
การวิเคราะห์การตลาดบนออนไลน์ เป็นการรวบรวม จัดการ และวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ Insights ของลูกค้า สำหรับนำไปต่อยอดและให้เกิดประโยชน์ในแง่มุมต่าง ๆ กับธุรกิจ หากองค์กรของคุณมีเว็บไซต์ที่เชื่อมกับเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ เช่น Google Analytics ที่จะรวบรวมข้อมูลในขณะที่มีคนเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์ของคุณ เช่นเดียวกับโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น Facebook และ Instagram หรือเมื่อคุณทำแคมเปญโฆษณา การรู้ว่าควรใช้เครื่องมือใดและวิธีดึงข้อมูลนี้เป็นสิ่งสำคัญในการชี้แนะกลยุทธ์การตลาด
3. ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขาย (Transaction Data)
นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น หากธุรกิจมีร้านค้าออนไลน์และทำการซื้อขายบนเว็บไซต์ ข้อมูลที่ได้รับจากการขายจะมีประโยชน์อย่างมากในการทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคและประสิทธิภาพของข้อเสนอหรือแคมเปญต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ยื่นข้อเสนอส่วนลดซื้อครั้งต่อไปให้กับลูกค้า เป็นต้น
4. ใช้เครื่องมือหรือแพลตฟอร์มของบุคคลที่ 3 ที่รวบรวมและสรุปข้อมูลมาไว้ที่เดียว (Third-party data)
ปกติการรวบรวมข้อมูลผ่านแบบสำรวจออนไลน์ การวิเคราะห์การตลาด หรือการได้รับข้อมูลการซื้อขายจะดำเนินการผ่านเครื่องมือที่ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งเรียกว่าข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่ง หากต้องการรับข้อมูลภายนอกสำหรับบริษัทของคุณ คุณจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองหรือผ่านการใช้เครื่องมือเฉพาะ ข้อมูลนี้เรียกว่าข้อมูลของบุคคลที่สาม โดยจะเป็นเครื่องมือเฉพาะที่มีการดึงข้อมูลที่คุณต้องการมาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลบริษัท, เครดิตสกอร์ธุรกิจ, ข้อมูลการกล่าวถึงบนโซเชียลมีเดีย หรือความรู้สึกของผู้ใช้ที่มีต่อโพสต์หรือข้อความ ซึ่งการดึงข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ จะระบุข้อมูลที่สำคัญที่ช่วยให้คุณเรียนรู้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับลูกค้าของคุณที่คุณอาจไม่สามารถได้รับจากการรวบรวมข้อมูลแบบเดิม ๆ และไม่ละเมิดกฎข้อบังคับด้านการปกป้องข้อมูลใด ๆ ตัวอย่างเครื่องช่วยรวบรวมข้อมูลบนออนไลน์ เช่น แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง Social Listening หรือโซลูชันข้อมูลข่าวกรองการขาย (Sales Intelligence Solution) เป็นต้น
ตามที่เห็นข้างต้น มีหลายวิธีในการรวบรวมข้อมูลทางออนไลน์ แต่สิ่งสำคัญมากกว่าการรู้ว่าเทคนิคเหล่านี้คือการรู้และเข้าใจวิธีนำไปปฏิบัติ หากต้องใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลจากบุคคลที่สาม ก็ต้องอาศัยการเข้าใจการทำงานและความคุ้มค่าด้วยเช่นกัน