มนุษย์เงินเดือนกับการยื่นภาษี และเสียภาษี ตอนที่ 1
Date : 13/02/2019
ใครที่ยังไม่ได้ยื่นภาษีปี 2561 ก็อย่าลืมไปยื่นภาษีและเสียภาษีกันให้เรียบร้อยนะจ๊ะ..
 
 
 
     เมื่อไม่นานมานี้ เราได้เจอหน้าเพื่อนหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน เหล่ามนุษย์เงินเดือนอะเนอะสิ่งที่พูดคุยกับเพื่อนก็ไม่พ้นเรื่องเงินและงาน ซึ่งหลังจากเราได้คุยกับเพื่อนพบว่า เพื่อน ๆ หลายคนไม่ได้วางแผนยื่นภาษีหรือเสียภาษี เพราะคิดว่ารายได้เท่าไรก็เสียเท่านั้นแหละ ดังนั้นเราจึงมานั่งคุยเรื่องวางแผนภาษีกันใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยื่นภาษีและเสียภาษีในปีนี้ (สิ้นสุด 9 เมษายน) และปีอื่น ๆ 
 
           ก่อนที่เราจะวางแผน เราต้องประมาณรายรับในปีนั้นก่อน ก็คือต้องมี เพราะการที่เรารู้รายรับของเราจะทำให้เราสามารถคำนวณภาษีที่เราต้องจ่ายได้ ซึ่งตามโครงสร้างภาษีมนุษย์เงินเดือนแบบเรา ๆ สามารถหัก “ค่าใช้จ่าย” ของรายได้ที่เราได้รับจากงานเดือน (เงินได้ประเภทที่ 1 ) ได้ไม่เกิน 100,000 บาท นอกจากนี้ยังให้สิทธิ์ “ค่าลดหย่อนส่วนตัว” ได้คนละ 60,000 บาท
 
          หากปีนั้นคุณมีรายรับรวมทั้งสิ้น 240,000 บาท หักค่าใช้จ่าย 100,000 บาท คุณจะเหลือเงิน 140,000 แค่นี้คุณก็ไม่ต้องกังวลาว่า จะเอาอะไรมาลดหย่อนได้อีก หรือจะเสียภาษีเท่าไรแล้ว เพราะอะไรนั้นมาดูกัน....
 
          ตามตารางด้านบน ถ้าคุณมีรายรับต่อเดือนอยู่ที่ 20,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว 100,000 มีรายรับไม่เกิน 150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี ดังนั้นไม่ต้องหาค่าลดหย่อน เพื่อนำมาหักรายรับ
 
          ถ้าพูดตามความจริงมาตรการลดหย่อนภาษีทำให้คุณเสียภาษีน้อยลงได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการใช้จ่ายตามที่ภาครัฐกำหนด อาทิเช่น ช้อปช่วยชาติ, ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย หรือการลงทุนในกองทุนต่าง ๆ เป็นต้น แม้ว่าการออกมาตรการลดหย่อนภาษีจะทำให้รัฐบาลได้รับรายรับจากภาษีน้อยลง แต่วิธีนี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนให้ผู้คนใช้จ่ายเพื่อสังคม
 
          แล้วถ้าหากมีรายได้เกินต้องเตรียมตัวและวางแผนอย่างไรให้เสียภาษีน้อยที่สุด?
 
          ตามที่กล่าวไปข้างต้น คุณสามารถทำตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อนำมาลดหย่อนภาษีในแต่ละปีได้ ซึ่งในแต่ละปีมาตรการจะแตกต่างกันไป ขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด แต่ถ้าคุณไม่สนใจมาตรการต่าง ๆ มาดูกันว่าคนมีรายรับต่อเดือนเท่าไรที่เข้าข่ายต้องเสียภาษี หากไม่มีค่าลดหย่อนอื่น ๆ
 
          จากภาพด้านบน แสดงว่าคนที่มีรายรับไม่ถึง 25,000 บาท/เดือน ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียภาษีใด ๆ แค่ยื่นภาษีตามปกติทุก ๆ ปี แต่สำหรับคนที่มีรายรับมากกว่า 26,000 หากไม่มีค่าลดหย่อนอื่น ๆ มาช่วยคุณต้องเสียภาษีในอัตรา 5% ตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตามสามารถนำเงินที่จ่ายประกันสังคมทั้งปีมาเป็นค่าลดหย่อนได้เช่นกัน พอหักลบแล้วรายรับไม่เกิน 150,000 บาทก็ไม่ต้องเสียภาษี แต่ต้องยื่นภาษีเหมือนเดิมนะจ๊ะ 
 
          ผู้ที่มีรายได้อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี จะต้องวางแผนว่าคุณจะลดหย่อนอะไรเพิ่ม ซึ่งมีทั้งค่าลดหย่อนครอบครัว, ค่าลดหย่อนเบี้ยประกัน, เงินสมทบกองทุนประกันสังคม, ค่าลดหย่อนซื้อกองทุน, ดอกเบี้ยจากการซื้อที่อยู่อาศัย และค่าลดหย่อนเงินบริจาค หากคุณจะใช้ค่าลดหย่อนเหล่านี้เพิ่มเติม จะต้องมีใบเสร็จฉบับเต็ม หรือเอกสารที่ยืนยันว่าคุณได้ใช้จ่ายจริง ๆ
 
          หลังจากนั้น เมื่อนำเงินได้พึงประเมินมาหักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อน จะเหลือเป็นเงินได้สุทธิเพื่อนำมาคำนวณภาษีตามอัตราภาษีต่อไป ซึ่งบางคนจากที่เสียภาษีพอได้ค่าลดหย่อนมาหักก็กลายเป็นไม่ต้องเสียภาษีได้ ฉะนั้นแม้ว่าคุณจะไม่ได้เสียภาษีมันไม่ได้แปลว่าคุณไม่มีรายได้ หรือรายได้น้อยแต่อย่างใด อย่าคิดมากและใช้จ่ายเงินจากรายรับเท่าที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและคนอื่นก็พอ 
 
           สำหรับความรู้เรื่องภาษีอื่น ๆ โปรดติดตามตอนต่อไป...
 
                     ผู้เขียน : มุกกี้ ชวนเม้าท์